อาหารไทย: สิงหาคม 2010

วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2553

บัวลอยไข่หวานมะพร้าวอ่อน

ส่วนผสม

บัวลอยสีเขียว (ใบเตย)

แป้งข้าวเหนียว
น้ำใบเตยขั้นแบบค้นๆ
น้ำสะอาด
ใส่แป้ง น้ำใบเตย นวด ค่อยๆเติมน้ำ

บัวลอยสีเหลือง (ฟักทอง)

แป้งข้าวเหนียว
ฟักทองนึ่งสุกบดละเอียด
น้ำสะอาด
ใส่แป้งข้าวเหนียว ฟักทองลงไป ค่อยๆเติมน้ำ แล้วก็นวดให้เข้ากันดีค่ะ

บัวลอยสีม่วง (เผือก)

แป้งข้าวเหนียว
เผือกนึ่งสุกบดละเอียด
น้ำเปล่า
แป้งบัวลอยเผือกก็ทำเช่นเดียวกันกับบัวลอยฟักทองค่ะ

น้ำกะทิ (แบบโบราณ)

น้ำกะทิ
หัวกะทิ
น้ำตาลทราย
น้ำตาลปี๊บ
เกลือ
ใบเตย

นำส่วนผสมใส่หม้อตั้งไฟให้น้ำตาลละลาย

วิธีทำ

ปั้นบัวลอยเอาขนาดตามชอบเลยนะคะ

ต้มน้ำพอน้ำเดือดก็ใส่เม็ดบัวลอยลงไปต้มค่ะ ใช้ไฟกลางๆก็พอค่ะ ไม่ต้องเร่งให้แรง เดี๋ยวสักพักเม็ดบัวลอยก็จะสุก แล้วลอยขึ้นมาค่ะ จึงค่อยช้อนขึ้นด้วยตะหลิวหรือทัพพีโปร่งๆ

จากนั้นก็นำเม็ดบัวลอยไปผ่านน้ำเย็นสักพักค่ะ ให้หยุดสุก แล้วก็ช้อนขึ้นให้สะเด็ดน้ำ นำไปใส่ในหม้อน้ำกะทิพร้อมกับเครื่องต่างๆ(ฟักทอง เผือก มะพร้าวอ่อน) ตั้งให้เดือดก็ใช้ได้ค่ะ

หากใครจะกินบัวลอยไข่หวานก็ใส่ไข่ลงไปในหม้อเลยค่ะ แล้วก็ต้มไปสักครู่ไข่ก็จะสุกค่ะ
พอไข่สุกก็ตักใส่ถ้วยได้เลยค่ะ เสริฟได้เลยค่ะ

ที่มา

http://www.baanmaha.com/community/thread26132.html

สูตรขนม บัวลอยงาดำน้ำขิง

ส่วนผสม

งาดำ 3/4 ถ้วย
ขิงแก่หั่นหยาบ 1 ถ้วย
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายขาว 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
หัวกะทิ 1/3 ถ้วย
แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
น้ำร้อนจัด 1/2 ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ

คั่วงาดำด้วยไฟอ่อนจนสุก พักไว้ให้เย็นสนิทจึงนำไปป่นให้ละเอียด(ใช้ครกหรือเครื่องปั่นก็ได้)พักไว้ นำขิงหั่นหยาบไปปั่นรวมกับน้ำจนเนื้อละเอียด กรองแยกเนื้อและน้ำไว้

น้ำเนื้อขิงที่กรองน้ำออกแล้วผัดรวมกับน้ำตาลทรายแดงและขาว เกลือป่นและหัวกะทิ ใช้ไฟปานกลางนานประมาณ 5 นาทีจนเริ่มแห้งและเหนียวขึ้น จึงเติมงาดำที่ป่นแล้วลงผสมให้เข้ากัน เมื่อแห้งดีแล้วตักขึ้นพักไว้

ผสมแป้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้าให้เข้ากัน ค่อยๆเติมน้ำร้อนแล้วใช้ช้อนคลุกให้เข้ากัน จากนั้นจึงค่อยใช้มือนวดแป้งจนเนื้อเนียนไม่ติดมือ

ตักไส้ขิงงาดำประมาณ 2 ช้อนชาปั้นให้เป็นก้อนกลม และปั้นแป้งให้ใหญ่กว่าไส้เล็กน้อยใช้มือกดให้แผ่เป็นแผ่นบาง พยายามให้บริเวณขอบบางกว่าตรงกลาง นำไส้มาวางตรงกลาง ห่อรวบแผ่นแป้งปิดให้มิด นำไปต้มในน้ำเดือดจนกระทั่งสุกลอยขึ้นมา ก่อนเสิร์ฟให้ราดหน้าด้วยซอสขิงอบเชยร้อนๆ

ส่วนผสมซอสขิงอบเชย

น้ำขิงที่กรองไว้ 1/4 ถ้วย
กะทิ 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ
แท่งอบเชย 1 แท่ง
แป้งข้าวโพดละลายน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

ใส่น้ำขิง กะทิ น้ำตาลทรายแดง แท่งอบเชยหักเป็นท่อนลงในกระทะ คนจนน้ำตาลละลายหมด เคี่ยวต่อประมาณ 2-3 นาทีให้เดือด เติมแป้งข้าวโพดคนเร็วๆจนซอสข้นเหนียวขึ้น

ที่มา

http://www.zazana.com/food/id6433.aspx

วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แซนวิชไส้แอปเปิ้ล

ส่วนผสม

แอ๊ปเปิ้ลเขียว 3 ลูก
แอ๊ปเปิ้ลแดง 2 ลูก
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1/4 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
ขนมปังโฮลวีท 1 แถวใหญ่

วิธีทำ

หั่นแอ๊ปเปิ้ลเขียวและแอ๊ปเปิ้ลแดงเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่เครื่องปั่น
เทน้ำผึ้ง เกลือ น้ำเปล่าและน้ำมะนาว ปั่นจนแอ๊ปเปิ้ลละเอียด
เทส่วนผสมที่ปั่นแล้วใส่หม้อเคี่ยวจนแห้ง ปิดเตา พักไว้ให้เย็น
ทาแยมแอ๊ปเปิ้ลบนขนมปัง ยกเสิร์ฟ

ชีวจิต

ที่มา

http://variety.teenee.com/foodforbrain/28890.html

สลัดเสาวรส

ส่วนผสม

ปลากะพง 1 ชิ้น (ประมาณ 3 ขีด)
เกลือ 1/4 ช้อนชา
พริกไทย 1/2 ช้อนชา
น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำสลัดเสาวรส 1 ถ้วย

วิธีทำ

หมักปลากะพงกับเกลือ พริกไทย และน้ำมันมะกอก(เหลือน้ำมันไว้เล็กน้อยสำหรับเคลือบกระทะเวลาย่างปลา) พักไว้
ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอกลงไปเคล้าให้ทั่ว ใช้ไฟปานกลางย่างปลากะพงพอสุก อย่าให้สุกมากเกินไปเนื้อปลาจะแข็ง
จัดปลากะพงย่างและผักสลัดใส่จาน ราดน้ำสลัดลงบนเนื้อปลา พร้อมเสิร์ฟ

น้ำสลัดเสารส

ส่วนผสม

เสาวรส 4-5 ลูก
น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ

ผ่าเสาวรสออก ใช้ช้อนตักเฉพาะเนื้อใส่ถ้วย
ใส่น้ำผึ้งและเกลือลงไป คนให้เข้ากัน

Tips

สามารถใช้การนึ่งปลาแทนการย่างสำหรับผู้ที่ดูแลสุขภาพอย่างเข้มงวด
ก่อนนำปลาลงย่าง ควรปล่อยกระทะให้ร้อนจัด เมื่อนำปลาลงย่างเพื่อเนื้อปลาที่ย่างจะเป็นรอยตามร่องกระทะสวยงาม
ควร ใช้ไฟปานกลางเพราะจะได้เนื้อปลาที่สุกกำลังดี หากใช้ไฟแรงเนื้อปลาจะไหม้หรือแข็งเกินไป แต่ถ้าใช้ไฟอ่อนน้ำในเนื้อปลาจะซึมออกมามาก เนื้อปลาจะไม่หวาน

ชีวจิต

ที่มา

http://variety.teenee.com/foodforbrain/28853.html

วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข้าวเกรียบฟักทอง

ช่วงเวลา	--
การปรุงอาหาร	--
รูปแบบเมนู	จาน
โอกาส	--
ประเภท	อาหารเจ
เพิ่มโดย	Admin

หมวดเมนู	ขนมหวาน
วิธีการทำ	--
เวลา	1 ชม.
พลังงาน	--
เสิร์ฟ	--

เพิ่มในเมนูโปรดปราน	คลิกแสดงความคิดเห็น
ส่งอีเมล์เมนูนี้ให้เพื่อน	พิมพ์เมนูนี้

ส่วนผสม :

แป้งมัน 1 กิโลกรัม
น้ำตาลทรายแดง 2 ทัพพี
ฟักทอง 1/2 กิโลกรัม
เกลือป่น 1/4 กิโลกรัม (2 ขีดครึ่ง)
พริกไทยเล็กน้อย
** ฟักทองอย่าให้มากกว่าแป้ง

วิธีการทำ :

ผสมแป้งกับเครื่อง ปรุงทุกอย่างนวดกับฟักทองร้อนๆ โดยใช้น้ำร้อนช่วยให้แป้งสุก และนวดง่าย เมื่อนวดเข้ากันดีแล้ว นำมาทำเป็นแท่งโดยใช้น้ำมันพืช (ทำเป็นแท่ง เหมือนทุเรียนกวน) ผึ่งลมให้เย็นและแข็งระดับหนึ่ง แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตากแดดให้แห้ง เก็บไว้ทอดรับประทาน

ที่มา

http://www.mindcyber.com/recipe/popup.php?sb_id=398

ลอดช่องสิงคโปร์

ช่วงเวลา	--
การปรุงอาหาร	ภาคกลาง
รูปแบบเมนู	ถ้วย
โอกาส	--
ประเภท	อาหารเจ
เพิ่มโดย	Admin

หมวดเมนู	ขนมหวาน
วิธีการทำ	--
เวลา	1 ชั่วโมง
พลังงาน	--
เสิร์ฟ	--

เพิ่มในเมนูโปรดปราน	คลิกแสดงความคิดเห็น
ส่งอีเมล์เมนูนี้ให้เพื่อน	พิมพ์เมนูนี้

ส่วนผสม :

1. แป้งมัน 480 กรัม

2. เกลือป่น 1/3 ช้อนโต๊ะ

3. น้ำต้มสุก 8 ถ้วย

4. น้ำตาลทราย 500 กรัม

5. มะพร้าวขูด 500 กรัม

6. น้ำใบเตยเข้มข้น สีผสมอาารสีเขียวเล็กน้อย

7. ขนุนหั่นเป็นเส้นเล็ก 1 ถ้วยตวง

วิธีการทำ :

1. นำแป้งมันมาร่อนพักไว้ ทำแป้งเป็นหลุม

2. น้ำต้มเดือดค่อยๆเทลงใส่แป้งทีละน้อยเอาไม้พายกวนอย่าให้แข็งหรือเหลวไป

3. นำน้ำใบเตยผสมลงในแป้ง แล้วแต่งสีด้วยสีผสมอาหาร

4. นวดแป้งให้เข้ากันแบ่งแป้งแล้วนวลด้วยแป้งมันปั้นยาวๆเอาไม้รีดแป้งให้บางมากๆ ตัดแป้งเป็นเส้นเล็กๆคลุกด้วยแป้งมัน

วิธีทำน้ำกะทิน้ำเชื่อม

1. นำน้ำ 8 ถ้วย คั้นกะทิกรองด้วยผ้าขาวบางใส่เกลือ 1/3 ช้อนโต๊ะ

2. น้ำ 3-4 ถ้วย เทน้ำตาลลงต้มให้ละลาย กรองด้วยผ้าขาวบาง

ที่มา

http://www.mindcyber.com/recipe/popup.php?sb_id=260

วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข้าวเกรียบอ่อนฟักทองไส้กุ้ง

ส่วนผสมแป้ง

[SIZE=+0]ข้าวสารข้าวเจ้าแช่น้ำค้างคืน [/SIZE]	1	ถ้วย
ฟักทองนึ่งสุกบดละเอียด	1/2	ถ้วย
แป้งมัน	1/4	ถ้วย
แป้งเท้ายายม่อม	1	ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น	1/4	ช้อนชา
น้ำ	1 1/2	ถ้วย

โม่ข้าวสารกับน้ำ นำมาผสมฟักทอง แป้งมัน แป้งเท้ายายม่อม เกลือ เข้าด้วยกัน กรองด้วยกระชอน พักไว้ (โดยใช้เครื่องโม่บดให้ละเอียด)

สิ่งที่ต้องเตรียม
- หม้อข้าวเกรียบปากหม้อ
- ผ้าดิบสำหรับขึงบนปากหม้อ
- เชือกมัดผ้ากับปากหม้อ

ส่วนผสมไส้

กุ้งสับ	1/2	ถ้วย
รากผักชีหั่น	1	ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดซอย	1	ช้อนโต๊ะ
มะพร้าวขูดขาว	1/2	ถ้วย
กระเทียม	1	ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย	1/4	ถ้วย
พริกไทยป่น	1/2	ช้อนชา
เกลือป่น	1/2	ช้อนชา
น้ำมันพืช	2	ช้อนโต๊ะ

สีผสมอาหารสีส้ม

วิธีทำไส้
1. โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย เกลือ เข้าด้วยกันให้ละเอียด
2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟ ใส่เครื่องที่โขลก ผัดให้หอม ใส่กุ้ง ผัดพอสุก ใส่มะพร้าว สีผสมอาหาร 1 หยด ผัดพอเข้ากันให้ทั่ว
3. ปรุงรสด้วยน้ำตาล เมื่อน้ำตาลละลาย ชิมรส ใส่ใบมะกรูด ยกลง

วิธีทำข้าวเกรียบอ่อน
1. ใส่น้ำลงในหม้อให้พอดี ต้องให้น้ำเดือดและไอน้ำซึมเข้าเนื้อผ้าดี
2. ตักแป้งใส่ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ ละเลงแป้งเป็นแผ่นกลม ปิดฝา
3. เมื่อแป้งสุก ตักไส้ใส่ตรงกลาง พับครึ่ง ค่อยๆ แคะออก ทาน้ำมัน
4. เสิร์ฟพร้อมผักสด เช่น ผักกาดหอม ผักชี พริกขี้หนู

ที่มา : naichef

http://forum.khonkaenlink.info/index.php?topic=45442.0

ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อไส้เห็ดหอม

ส่วนผสมตัวแป้ง
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
แป้งมัน 1/2 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. ผสมแป้งทั้ง 2 ชนิดเข้าด้วยกัน
2. ผสมน้ำเปล่าน้ำตาลทรายคนให้ละลายเข้ากันดี
3. นวดแป้งด้วยน้ำจะเป็นก้อนแล้วคลายแป้งด้วยน้ำที่เหลื อ

น้ำจิ้มสูตรที่ 1
ส่วนผสม
ซีอิ๊วหวาน 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วยตวง
พริกชี้ฟ้าแดงโขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
1. ผสมซีอิ๊วหวาน น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู นำขึ้นตั้งไฟ พอละลายยกลง
2. พอคลายความเย็นใส่พริกชี้ฟ้า โขลกละเอียด

ส่วนผสมไส้เห็ดหอม
เห็ดหอม 1 ถ้วยตวง
หมูสับ 1 ถ้วยตวง
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 1 ช้อนชา

วิธีทำ
1. นำเห็ดหอมแช่น้ำ จนนิ่ม แล้วซอยเป็นเส้นตามขวาง
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช พอร้อนใส่หมูสับผัดพอสุก
3. ตั้งหม้อ ผูกผ้าให้ตึง พอน้ำเดือด ตักแป้งละเลงให้แป้งบาง ปิดฝา
พอแป้งสุกตักไส้ใส่ ปาดให้เป็นรูปก้นหอย
4. จัดเสิร์ฟโรยกระเทียมเจียว รับประทานคู่กับน้ำจิ้ม สูตร 1

__________________

ว่างๆ อย่าลืมแวะไปนะจ๊ะ
จันทร์เจ้าดอทคอม (เว็บในเครือของจันทร์เจ้าขา)

จันทร์เจ้าเกมส์ (มาเล่นเกมส์กัน)

ที่มา

http://www.junjaowka.com/webboard/showthread.php?t=82596

วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

รวมมิตรธัญพืชน้ำข้าวโพด

ส่วนผสม
ข้าวโพดเหลืองดิบฝาน 2 ถ้วย
ข้าวโพดเหลืองต้มสุกฝาน 1 ถ้วย
ถั่วแดงต้มเปื่อย 1 ถ้วย
แปะก๊วยต้ม ½ ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ ¼ ถ้วย
น้ำเปล่า 4 ถ้วย
เกลือป่น เล็กน้อย

วิธีทำ
1.ปั่นข้าวโพดดิบกับน้ำจนละเอียด กรองเอาแต่น้ำ
2.นำน้ำข้าวโพดที่ได้มาตั้งไฟ เคี่ยวจนเดือด โดยระหว่างเคี่ยวต้องหมั่นคนก้นหม้ออยู่เสมอ เพื่อไม่ให้น้ำข้าวโพดก้นหม้อไหม้
3.ใส่ข้าวโพดต้มสุก ถั่วแดง และแปะก๊วย ลงไป
4.ใส่น้ำตาลปี๊บ และเกลือ ลงไป คนให้ละลาย รอจนเดือด แล้วปิดไฟ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

Tips
1.ถ้าไม่ชอบน้ำข้าวโพด สามารถใช้น้ำเต้าหู้แทนก็ได้
2.สามารถเติมธัญพืชชต้มสุกนิดอื่น เช่น แห้ว เม็ดบัว หรือลูกเดือยเพื่อเพิ่มรสชาติและความอร่อย
3.ควรใช้น้ำตาลปี๊บมากกว่าน้ำตาลทรายแดงเพราะจะได้รสชาติที่กลมกล่อมและมีกลิ่นหอมมากกว่า

ชีวจิต

ที่มา

http://variety.teenee.com/foodforbrain/28589.html

ต้มจับฉ่าย

ส่วนผสม

ผักคะน้า	400 กรัม
กะหล่ำปลี	500 กรัม
กวางตุ้ง	700 กรัม
แครอท	200 กรัม
หัวไชเท้า	100 กรัม
ปีกบนไก่	7 ชิ้น
รากผักชี	5 ราก
พริกไทยขาว (เม็ด)	2 ช้อนชา
น้ำสะอาด	3 ลิตร
ซีอิ๊วขาว	1 ถ้วย
เกลือ	1/2 ช้อนโต๊ะ

หมายเหตุ
สามารถ เพิ่มผักอื่นๆ และลดปริมาณผักที่อยู่ในสูตรลงได้ตามชอบค่ะ จะใช้ปีกไก่บนเยอะหน่อยก็ได้นะคะ ถ้าชอบทานเนื้อสัตว์ ให้เพิ่มหมูสามชั้นได้ค่ะ

วิธีทำ
1. ล้างผักให้สะอาด แช่ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที (ผสมเกลือลงไปเพื่อทำความสะอาด)
2. ต้มน้ำให้เดือดไว้รอ
3. นำผักมาหั่น ให้ได้ขนาดพอดีคำ แครอทและหัวไชเท้าหั่นแว่น
4 นำรากผักชีและพริกไทยเม็ดมาตำให้เข้ากัน
5. ผักรากผักชีและเม็ดพริกไทยที่ตำมาผัดกับน้ำมันเล็กน้อยให้พอหอม จากนั้นนำปีกบนไก่ หรือหมูสามชั้นลงมาผัดให้เข้ากัน
6. เมื่อน้ำเดือดให้นำส่วนผสมในข้อ 5 ลงไปต้ม
7. ลดไฟเหลือไฟปานกลาง ให้นำผักลงไปต้ม
8. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและเกลือ จากนั้นให้หรี่ไฟลง ต้มไว้ประมาณ 20 นาที

เพิ่มเติม
ต้ม จับฉ่ายหม้อนี้ทานได้หลายวันค่ะ เวลาอุ่นให้ใช้ไฟอ่อนๆ จนเดือดแล้วปิดไฟ ไม่ควรปล่อยไว้นาน ถ้าน้ำงวดลงไปมากจะเค็ม , ผักต่างสามารถเพิ่มหรือลดได้ตามชอบ ใครที่ชอบกลิ่นหอมของขึ้นฉ่ายก็สามารถใส่ลงไปได้ค่ะ

พิเศษ
สามารถ นำจับฉ่ายแทนน้ำซุปสำหรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้ด้วยค่ะ ได้ประโยชน์จากผักและเนื้อไก่ คุณยายของนกมักจะนำมาประกอบกันเสมอค่ะ ท่านไม่ค่อยชอบทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่อยากจะลอง ก็เลยนำจับฉ่ายนี่ล่ะมาเพิ่มด้วย ในครอบครัวก็เลยลองทานกัน ปรากฎว่าอร่อยถูกใจค่ะ ลองดูนะคะ

อาจจะดูเหมือนว่าเยอะ แต่ว่าเวลาเราได้ซดน้ำซุปร้อนๆ จะรู้สึกคล่องคอ ไม่ต้องทานข้าวเยอะเลยค่ะ ทานแต่จับฉ่ายก็ได้นะคะ ในช่วงนี้หมูแพงก็ใช้ไก่แทน

ที่มา

http://variety.teenee.com/foodforbrain/28590.html

วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สูตรอาหาร : กระเพาะปลารสเด็ด

Kraporpla

ส่วนผสม
1. กระเพาะปลาแห้งที่ผ่านการทอดแล้วประมาณ 100 กรัม
2. เนื้อไก่ ประมาณ 200 กรัม
3. เลือกไก่ 1 ก้อน
4. เห็ดหอม 5 ดอก
5. หน่อไม้ไผ่ตรง 300 กรัม
6. ซีอิ้วขาว 1/2 ถ้วยตวง
7. ซีอิ้วดำ 2 ช้อนโต๊ะ
8. พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
9. แป้งข้าวโพด 1 ถ้วยตวง
10. น้ำซุปกระดูกไก่ 10 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. นำน้ำซุปใส่หม้อตั้งไหให้เดือด ใส่กระเพาะปลาต้มให้นุ่ม ใส่หน่อไม้ เห็ดหอม เลือดไก่
ไข่นกกระทาต้มปอกเปลือก
2. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ พริกไทย
3. ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำ แล้วนำมาผสมลงในหม้อ รีบคนให้ทั่ว รอให้เดือดอีกครั้ง ยกลง
ตักใส่ชามโรยต้นหอมผักชี พริกไทย พริกดองน้ำส้ม

บทความจาก : McDang.com

http://www.hilunch.com/kra-por-pla

อาหารไทย

Find hot new releases and top pre-orders.

Kitchen Equipment

วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2553

บัวลอยไข่หวานมะพร้าวอ่อน

สูตรขนม บัวลอยงาดำน้ำขิง

วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แซนวิชไส้แอปเปิ้ล

สลัดเสาวรส

วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข้าวเกรียบฟักทอง

ลอดช่องสิงคโปร์

วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข้าวเกรียบอ่อนฟักทองไส้กุ้ง

ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อไส้เห็ดหอม

วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

รวมมิตรธัญพืชน้ำข้าวโพด

ต้มจับฉ่าย

วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สูตรอาหาร : กระเพาะปลารสเด็ด